re :น้องม.1 บทเรียนของม.2เทอม1ของ Additional ของชอนน๊า!~ (จปส.ทบทวนเองๆกะให้ความรู้น๊าจ๊ะ!!)
3 posters
EP Benjama Club [Season²] | The EP Students Community :: [EP]-FORUMS :: :: Chat Room :: Learn :: Science
Page 1 of 1
re :น้องม.1 บทเรียนของม.2เทอม1ของ Additional ของชอนน๊า!~ (จปส.ทบทวนเองๆกะให้ความรู้น๊าจ๊ะ!!)
อ่ะๆ มาเริ่มกันก่อนเลย
อยากจะบันทึกเอาไว้เผื่อทิ้ง(>>เข้าเพลงของมัดหมี่เลยเรา=_=<<)
เรื่องแรกก็เอ่อ..Human reproductionแร่ะอ่ะนะ
ก็ให้วาดรูป ฮ้าววว...ววว ง่วงๆ งืมๆ วันหลังค่อยอัพรูปมาใ่ส่ให้น๊า~
สมมิตว่ามีรูปแระ
ก็คือ..กักเก็บไข่เอาไว้
สร้างฮอโมนส์เพศหญิง คือ เอสโตรเจนกับโปรเจสเตอร์โรน
เด็กเกิดมาพร้อมกับไข่(คือมันเป็นเซลล์ไข่ที่เรียกว่า Ova)
หลังจากเริ่มมีMennzzzzssssstruaaatiooonn(คู๊นนนน้องผู้ชายยยรู้จักมั้ยเอ่ย...!?) ไข่หนึ่งเซลล์จะเจริญเติบโต(ไข่แทนที่จะเรียกเป็นฟองเขาเีรียกเป็นเซลล์แทนอ่ะนะ) และจะถูกปล่อย
ออกไปเมื่อพร้อมที่จะผสมพันธุ์
นำไข่ไปสู่มดลูกโดย
การพักของ Cilia หรือขนในท่อนำไข่ที่จะช่วยพัดไข่ที่ผสมแล้วไปฝังตัวที่มดลูก
การบีบตัวของกล้ามเนื้อของท่อนำไข่เพื่อให้ไข่เคลื่อนตัวไปฝังตัวที่มดลูกเช่นกัน
การตกไข่คือ เมื่อไข่ถูกปล่อยออกมาจากรังไข่ (ซึ่งมักจะออกมาจากรังไข่ในแต่ละเดือน)
คือ การเปลี่ยนแปลงของระบบสืบพันธุ์ของเพศหญิง โดยเฉลี่ยรอบละ 28 วัน หรืออาจจะอยู่ระหว่าง 21-35 วัน
ผนังมดลูกจะหนาขึ้น ภายใน 14 วัน หลังจากรอบเดือนเริ่มขึ้นและจะเตรียมพร้อมที่จะให้ไข่ที่ถูกผสมแล้วมาฝังตัวต่อไป
วันที่1-5ของรอบเดือน
เริ่มมี Menstruation วันแรก และ ผนังมดลูก เริ่มสร้างผนังมดลูกใหม่ขึ้นมา
วันที่6-14ของรอบเดือน
ผนังมดลูกเริ่มหนาขึ้นเรื่อยๆและเริ่มมีเส้นเลือดขึ้นตามผนังมดลูก
วันที่14ของรอบเดือน มีการตกไข่
วันที่14-28 ผนังมดลูกหนาขึ้นและพร้อมที่จะให้ไข่มาฝังตัว
วันที่ 28
หากไม่มีการฝังตัวของไข่ ผนังมดลูกก็จะสลายตัวและเกิดเป็นMenstruation วันแรกขึ้น
ไข่จะถูกผสมในท่อนำไข่
ไข่ที่ถูกผสมจะถูกนำไปที่มดลูกโดย
cilia
และการบีบตัวของกล้ามเนื้อของท่อนำไข่ ดังที่กล่าวมาในหัวข้อท่อนำไขไว้แล้ว
ไข่จะถูกฝังตัวที่ผนังมดลูก *มีเพียงแค่เสปิร์มหนึ่งตัวเท่านั้นที่สามารถเข้าไปอยู่ในไข่ได้ส่วนตัวที่เหลือจะตายไป
:: อาศัยหลักทางสรีรวิทยา 3 อย่างคือ
• ไข่จะตกประมาณวันที่ 14(ก่อนหรือหลัง 2 วัน) ก่อนวันที่จะมีระดู
ครั้งต่อไป
• ไข่ตกแล้วจะอยู่ได้เพียง 24 ชั่วโมง
• ตัวอสุจิจะอยู่ได้เพียง 2-3 วัน
จากหลักการดังกล่าวนำมาคิดเป็นสูตรได้ดังนี้
วันแรกที่ไม่ปลอดภัย = จำนวนวันของรอบเดือนที่สั้นที่สุด -18
มีประสิทธิภาพ= 60%
ถุงยางอนามัยมีใช้กันมานานแล้ว ปัจจุบันมีการผลิตถุงยางอนามัยที่มีความบางมากและเหนียว ใช้ได้ดีในด้านการคุมกำเนิดและป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ รวมทั้งโรคเอดส์ ถ้าใช้ถุง
ยางอนามัยร่วมกับยาฆ่าตัวอสุจิ (Spermicides) เช่น Nonxynal-9 จะทำให้มีปะสิทธิภาพในการคุมกำเนิดสูงขึ้นด้วย นอกจากถุงยางอนามัยฝ่ายชายแล้ว ยังมีการทดลองใช้ถุงยางอนามัย
สำหรับสตรี (female condom) เช่น Femshield หรือ Femidom ด้วย แต่การใช้ยังไม่สะดวกเท่าที่ควร
การสวนล้างช่องคลอด (Vaginal douche) การคุมกำเนิดโดยการสวนล้าง
ช่องคลลอด เป็นตั้งครรภ์ไม่แน่นอน ไม่ว่าจะใช้น้ำยาชนิดใด เนื่องจากทันที่มีการหลั่งอสุจิ จะมีตัวอสุจิส่วนหนึ่งแทรกเข้าไปในปากมดลูก (Cervical canal) ได้ จึงได้ผลน้อยแต่ก็ยังดีกว่าไม่
คุมกำเนิดเลย
จะสูงขึ้น ถ้าใช้ร่วมกับยาฆ่าตัวอสุจิ ในอดีตมีผู้นิยมใช้วิธีนี้มาก ปัจจุบันเมื่อมีวิธีอื่น
ที่สะดวกและไม่ยุ่งยากในการใช้มาทดแทน ทำให้การใช้หมวกยางกั้นช่องคลอดและหมวกยาง
ครอบปากมดลูกลดความนิยมลงไปขณะเดียวกันก็มีการผลิตฟองน้ำใส่ช่องคลอดที่ใส่ยาฆ่าอสุจิ จากรายงานพบว่าใช้ง่ายและได้ผลดีพอสมควร
ยาคุมกำเนิด เป็นยาเม็ดที่ฝ่ายหญิงใช้กินทุกวัน เพื่อการป้องกันการตั้งครรภ์ ปัจจุบันมีการสังเคราะห์ฮอร์โมนชนิดใหม่ มีการลดขนาดของฮอร์โมนในยาเม็ดคุมกำเนิดและ
หาสูตรผสมที่แตกต่างกันไป ทั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อที่จะให้ได้ยาที่มีประสิทธิภาพในการป้องกัน
การตั้งครรภ์สูงสุด โดยมีผลข้างเคียงน้อยที่สุด ทั้งผลทางด้านคลินิกและผลเกี่ยวกับชีวเคมี ตลอดจนกระบวนการ Metabolism ต่าง ๆ
กลไกการป้องกันการตั้งครรภ์
• ระงับการตกไข่
• ทำให้มูกที่ปากมดลูกเหนียวหนืด ตัวอสุจิไม่สามารถผ่านเข้าสู่โพรงมดลูกได้
• เยื่อบุมดลูกไม่เจริญตามปกติ
ถูกนำมาใช้ในโครงการวางแผนครอบครัวแห่งชาติ ซึ่งเริ่มต้นในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 3 จนถึงปัจจุบัน โดยในระยะแรกใช้ Lippers Loop ซึ่งเป็นห่วงรูปร่างคล้ายตัว
อักษร S ติดกันทำมาจากสารจำพวกพลาสติก คือโพลีเอธิลีน(polyethylene) และมีแบเรียมซัลเฟต (Barium sulfate) ผสมอยู่ ต่อมาได้มีการพัฒนาและศึกษาคุณสมบัติของห่วงอนามัย
รุ่นใหม่ ๆ โดยเฉพาะห่วงที่มีลวดทองแดงพันอยู่ เพื่อพัฒนาให้มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น อาการข้างเคียงน้อยลง และระสิทธิภาพสูงขึ้นไปอีก เช่น ML Cu 250,T Cu 380A ซึ่งปัจจุบันนี้
กระทรวงสาธารณสุขได้ใช้ห่วงอนามัยชนิด ML Cu 250,T Cu 380 A ซึ่งมีอายุการใช้งาน 5 และ 8 ปี ตามลำดับ
การทำหมันชาย หมายถึงการผูกตัดท่ออสุจิในผู้ชาย ซึ่งทำกันมานานกว่า 150 ปีแล้ว ในประเทศไทยมีการทำมานานกว่า 50 ปี ปัจจุบันมีการพัฒนาวิธีการทำหมันให้แผลเล็กมาก เรียกว่า การ
ทำหมันเจาะ(Non scalpel Vasectomy ) และหมันฉีด (Vas injection with occlusive agent) นอกจากการพัฒนาเทคนิคการทำหมันแล้ว ยังมีการศึกษาถึงความปลอดภัยในระยะ
ยาว
ของผู้ที่ได้รับการทำหมันไปแล้ว ซึ่งพบว่าสุขภาพดีกว่าผู้ที่ไม่ได้ทำหมัน
1.2 การทำหมันหญิง (Tubal occlusion or female sterilization)
การทำหมันหญิงเป็นการทำให้ท่อนำไข่อุดตันด้วยวิธีการต่าง ๆ ในสมัยก่อน
ทำเฉพาะรายที่เพิ่งคลอดใหม่ เรียกว่า ทำหมันหลังคลอด (Postpartum sterilization) หรือทำร่วมกับการผ่าตัดคลอดเท่านั้น แต่ในปัจจุบันนี้มีการทำหมันในระยะที่ไม่เกี่ยวข้องกับการตั้ง
ครรภ์ (Interval female sterilization) หรือที่เรียกว่าหมันแห้งซึ่งทำได้สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ไม่จำเป็นต้องใช้การดมยาสลบ แผลผ่าตัดเล็ก เย็บผิวหนัง 1-2 เข็ม และผู้รับบริการ
สามารถกลับบ้านได้ในวันนั้น
ซึ่งเป็นประโยชน์และเหมาะสมกับสภาพสังคมไทยที่การคลอดส่วนใหญ่ยังคลอดที่บ้านและ
มิได้กระทำโดยแพทย์ หรือบุคลากรทางการแพทย์ ทำให้ผู้รับบริการมีโอกาสเลือกหรือตัดสินใจ
ทำหมันได้ เมื่อมีบุตรเพียงพอแล้ว โดยไม่ต้องรอให้มีอีกคนหนึ่งเพื่อจะไปทำหมันหลังคลอด
การวางแผนครอบครัวคือแนวทางสำคัญประการหนึ่งในการวางแผนและเตรียมการสำหรับชีวิตคู่ในอนาคต และเป็นแนวทางในการป้องกันผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์จากการมีเพศสัมพันธ์ โดย
เฉพาะการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี
:lol!: :lol!: :lol!: :lol!:
อยากจะบันทึกเอาไว้เผื่อทิ้ง(>>เข้าเพลงของมัดหมี่เลยเรา=_=<<)
เรื่องแรกก็เอ่อ..Human reproductionแร่ะอ่ะนะ
ก็ให้วาดรูป ฮ้าววว...ววว ง่วงๆ งืมๆ วันหลังค่อยอัพรูปมาใ่ส่ให้น๊า~
สมมิตว่ามีรูปแระ
หน้าที่ของไข่ (ovary)
ก็คือ..กักเก็บไข่เอาไว้
สร้างฮอโมนส์เพศหญิง คือ เอสโตรเจนกับโปรเจสเตอร์โรน
เด็กเกิดมาพร้อมกับไข่(คือมันเป็นเซลล์ไข่ที่เรียกว่า Ova)
หลังจากเริ่มมีMennzzzzssssstruaaatiooonn(คู๊นนนน้องผู้ชายยยรู้จักมั้ยเอ่ย...!?) ไข่หนึ่งเซลล์จะเจริญเติบโต(ไข่แทนที่จะเรียกเป็นฟองเขาเีรียกเป็นเซลล์แทนอ่ะนะ) และจะถูกปล่อย
ออกไปเมื่อพร้อมที่จะผสมพันธุ์
ท่อนำไข่ (Fallopian Tube)
นำไข่ไปสู่มดลูกโดย
การพักของ Cilia หรือขนในท่อนำไข่ที่จะช่วยพัดไข่ที่ผสมแล้วไปฝังตัวที่มดลูก
การบีบตัวของกล้ามเนื้อของท่อนำไข่เพื่อให้ไข่เคลื่อนตัวไปฝังตัวที่มดลูกเช่นกัน
การตกไข่
การตกไข่คือ เมื่อไข่ถูกปล่อยออกมาจากรังไข่ (ซึ่งมักจะออกมาจากรังไข่ในแต่ละเดือน)
รอบเดือน
คือ การเปลี่ยนแปลงของระบบสืบพันธุ์ของเพศหญิง โดยเฉลี่ยรอบละ 28 วัน หรืออาจจะอยู่ระหว่าง 21-35 วัน
ผนังมดลูกจะหนาขึ้น ภายใน 14 วัน หลังจากรอบเดือนเริ่มขึ้นและจะเตรียมพร้อมที่จะให้ไข่ที่ถูกผสมแล้วมาฝังตัวต่อไป
วันที่1-5ของรอบเดือน
เริ่มมี Menstruation วันแรก และ ผนังมดลูก เริ่มสร้างผนังมดลูกใหม่ขึ้นมา
วันที่6-14ของรอบเดือน
ผนังมดลูกเริ่มหนาขึ้นเรื่อยๆและเริ่มมีเส้นเลือดขึ้นตามผนังมดลูก
วันที่14ของรอบเดือน มีการตกไข่
วันที่14-28 ผนังมดลูกหนาขึ้นและพร้อมที่จะให้ไข่มาฝังตัว
วันที่ 28
หากไม่มีการฝังตัวของไข่ ผนังมดลูกก็จะสลายตัวและเกิดเป็นMenstruation วันแรกขึ้น
การปฏิสนธิ
ไข่จะถูกผสมในท่อนำไข่
ไข่ที่ถูกผสมจะถูกนำไปที่มดลูกโดย
cilia
และการบีบตัวของกล้ามเนื้อของท่อนำไข่ ดังที่กล่าวมาในหัวข้อท่อนำไขไว้แล้ว
ไข่จะถูกฝังตัวที่ผนังมดลูก *มีเพียงแค่เสปิร์มหนึ่งตัวเท่านั้นที่สามารถเข้าไปอยู่ในไข่ได้ส่วนตัวที่เหลือจะตายไป
rythm method หรือการนับวัน(อันนี้อาจารย์ชอนจะไม่ค่อยสอน แต่จะหามาจากที่อื่นห้ายยยย!~)
:: อาศัยหลักทางสรีรวิทยา 3 อย่างคือ
• ไข่จะตกประมาณวันที่ 14(ก่อนหรือหลัง 2 วัน) ก่อนวันที่จะมีระดู
ครั้งต่อไป
• ไข่ตกแล้วจะอยู่ได้เพียง 24 ชั่วโมง
• ตัวอสุจิจะอยู่ได้เพียง 2-3 วัน
จากหลักการดังกล่าวนำมาคิดเป็นสูตรได้ดังนี้
วันแรกที่ไม่ปลอดภัย = จำนวนวันของรอบเดือนที่สั้นที่สุด -18
มีประสิทธิภาพ= 60%
condom หรือ ถุงยาง(โฮะๆ)
ถุงยางอนามัยมีใช้กันมานานแล้ว ปัจจุบันมีการผลิตถุงยางอนามัยที่มีความบางมากและเหนียว ใช้ได้ดีในด้านการคุมกำเนิดและป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ รวมทั้งโรคเอดส์ ถ้าใช้ถุง
ยางอนามัยร่วมกับยาฆ่าตัวอสุจิ (Spermicides) เช่น Nonxynal-9 จะทำให้มีปะสิทธิภาพในการคุมกำเนิดสูงขึ้นด้วย นอกจากถุงยางอนามัยฝ่ายชายแล้ว ยังมีการทดลองใช้ถุงยางอนามัย
สำหรับสตรี (female condom) เช่น Femshield หรือ Femidom ด้วย แต่การใช้ยังไม่สะดวกเท่าที่ควร
การสวนล้างช่องคลอด (Vaginal douche) การคุมกำเนิดโดยการสวนล้าง
ช่องคลลอด เป็นตั้งครรภ์ไม่แน่นอน ไม่ว่าจะใช้น้ำยาชนิดใด เนื่องจากทันที่มีการหลั่งอสุจิ จะมีตัวอสุจิส่วนหนึ่งแทรกเข้าไปในปากมดลูก (Cervical canal) ได้ จึงได้ผลน้อยแต่ก็ยังดีกว่าไม่
คุมกำเนิดเลย
หมวกยางกั้นช่องคลอดหรือครอบปากมดลูกและฟองน้ำใส่ช่องคลอด (Diaphragm) ใช้ป้องกันมิให้ตัวอสุจิเข้าไปผสมกับไข่ ประสิทธิภาพ
จะสูงขึ้น ถ้าใช้ร่วมกับยาฆ่าตัวอสุจิ ในอดีตมีผู้นิยมใช้วิธีนี้มาก ปัจจุบันเมื่อมีวิธีอื่น
ที่สะดวกและไม่ยุ่งยากในการใช้มาทดแทน ทำให้การใช้หมวกยางกั้นช่องคลอดและหมวกยาง
ครอบปากมดลูกลดความนิยมลงไปขณะเดียวกันก็มีการผลิตฟองน้ำใส่ช่องคลอดที่ใส่ยาฆ่าอสุจิ จากรายงานพบว่าใช้ง่ายและได้ผลดีพอสมควร
ยาเม็ดคุมกำเนิด หรือ contraceptive pills
ยาคุมกำเนิด เป็นยาเม็ดที่ฝ่ายหญิงใช้กินทุกวัน เพื่อการป้องกันการตั้งครรภ์ ปัจจุบันมีการสังเคราะห์ฮอร์โมนชนิดใหม่ มีการลดขนาดของฮอร์โมนในยาเม็ดคุมกำเนิดและ
หาสูตรผสมที่แตกต่างกันไป ทั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อที่จะให้ได้ยาที่มีประสิทธิภาพในการป้องกัน
การตั้งครรภ์สูงสุด โดยมีผลข้างเคียงน้อยที่สุด ทั้งผลทางด้านคลินิกและผลเกี่ยวกับชีวเคมี ตลอดจนกระบวนการ Metabolism ต่าง ๆ
กลไกการป้องกันการตั้งครรภ์
• ระงับการตกไข่
• ทำให้มูกที่ปากมดลูกเหนียวหนืด ตัวอสุจิไม่สามารถผ่านเข้าสู่โพรงมดลูกได้
• เยื่อบุมดลูกไม่เจริญตามปกติ
IUD หรือ ห่วงอนามัย (Intrauterine Device) สำหรับในประเทศไทย ห่วงอนามัยได้
ถูกนำมาใช้ในโครงการวางแผนครอบครัวแห่งชาติ ซึ่งเริ่มต้นในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 3 จนถึงปัจจุบัน โดยในระยะแรกใช้ Lippers Loop ซึ่งเป็นห่วงรูปร่างคล้ายตัว
อักษร S ติดกันทำมาจากสารจำพวกพลาสติก คือโพลีเอธิลีน(polyethylene) และมีแบเรียมซัลเฟต (Barium sulfate) ผสมอยู่ ต่อมาได้มีการพัฒนาและศึกษาคุณสมบัติของห่วงอนามัย
รุ่นใหม่ ๆ โดยเฉพาะห่วงที่มีลวดทองแดงพันอยู่ เพื่อพัฒนาให้มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น อาการข้างเคียงน้อยลง และระสิทธิภาพสูงขึ้นไปอีก เช่น ML Cu 250,T Cu 380A ซึ่งปัจจุบันนี้
กระทรวงสาธารณสุขได้ใช้ห่วงอนามัยชนิด ML Cu 250,T Cu 380 A ซึ่งมีอายุการใช้งาน 5 และ 8 ปี ตามลำดับ
การคุมกำเนิดแบบถาวร ได้แก่
1.1 การทำหมันชาย (Vasectomy)การทำหมันชาย หมายถึงการผูกตัดท่ออสุจิในผู้ชาย ซึ่งทำกันมานานกว่า 150 ปีแล้ว ในประเทศไทยมีการทำมานานกว่า 50 ปี ปัจจุบันมีการพัฒนาวิธีการทำหมันให้แผลเล็กมาก เรียกว่า การ
ทำหมันเจาะ(Non scalpel Vasectomy ) และหมันฉีด (Vas injection with occlusive agent) นอกจากการพัฒนาเทคนิคการทำหมันแล้ว ยังมีการศึกษาถึงความปลอดภัยในระยะ
ยาว
ของผู้ที่ได้รับการทำหมันไปแล้ว ซึ่งพบว่าสุขภาพดีกว่าผู้ที่ไม่ได้ทำหมัน
1.2 การทำหมันหญิง (Tubal occlusion or female sterilization)
การทำหมันหญิงเป็นการทำให้ท่อนำไข่อุดตันด้วยวิธีการต่าง ๆ ในสมัยก่อน
ทำเฉพาะรายที่เพิ่งคลอดใหม่ เรียกว่า ทำหมันหลังคลอด (Postpartum sterilization) หรือทำร่วมกับการผ่าตัดคลอดเท่านั้น แต่ในปัจจุบันนี้มีการทำหมันในระยะที่ไม่เกี่ยวข้องกับการตั้ง
ครรภ์ (Interval female sterilization) หรือที่เรียกว่าหมันแห้งซึ่งทำได้สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ไม่จำเป็นต้องใช้การดมยาสลบ แผลผ่าตัดเล็ก เย็บผิวหนัง 1-2 เข็ม และผู้รับบริการ
สามารถกลับบ้านได้ในวันนั้น
ซึ่งเป็นประโยชน์และเหมาะสมกับสภาพสังคมไทยที่การคลอดส่วนใหญ่ยังคลอดที่บ้านและ
มิได้กระทำโดยแพทย์ หรือบุคลากรทางการแพทย์ ทำให้ผู้รับบริการมีโอกาสเลือกหรือตัดสินใจ
ทำหมันได้ เมื่อมีบุตรเพียงพอแล้ว โดยไม่ต้องรอให้มีอีกคนหนึ่งเพื่อจะไปทำหมันหลังคลอด
การวางแผนครอบครัวคือแนวทางสำคัญประการหนึ่งในการวางแผนและเตรียมการสำหรับชีวิตคู่ในอนาคต และเป็นแนวทางในการป้องกันผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์จากการมีเพศสัมพันธ์ โดย
เฉพาะการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี
:lol!: :lol!: :lol!: :lol!:
oOBLGM&Mrs_CowiizzOo- Moderator
- จำนวนข้อความ : 356
EP Point : 658
ระดับชื่อเสียง : 4
สมัครเมื่อวันที่ : 2009-09-19
Age : 28
ที่อยู่ : My nice house &amp;amp; Nitipisan house
EP-Pets :
Re: re :น้องม.1 บทเรียนของม.2เทอม1ของ Additional ของชอนน๊า!~ (จปส.ทบทวนเองๆกะให้ความรู้น๊าจ๊ะ!!)
ถ้า มี รุ่น พี่ อย่าง เทอ คง เรียน ง่าย ก่า นี้ ๕๕ อ ชอน โหด !~
re: everyone
=_=!!!จะเป็นไปได้ยังงัยก๊านนนนน จปส.ของเราอ่ะนะก็เพื่อทบทวนความรู้เองกะให้ความรู้น้องๆเค้า
ก็เท่านั้นเอง..
ปล.จขกท.เมื่อยมือ
fighting everyon3
ก็เท่านั้นเอง..
ปล.จขกท.เมื่อยมือ
fighting everyon3
oOBLGM&Mrs_CowiizzOo- Moderator
- จำนวนข้อความ : 356
EP Point : 658
ระดับชื่อเสียง : 4
สมัครเมื่อวันที่ : 2009-09-19
Age : 28
ที่อยู่ : My nice house &amp;amp; Nitipisan house
EP-Pets :
Re: re :น้องม.1 บทเรียนของม.2เทอม1ของ Additional ของชอนน๊า!~ (จปส.ทบทวนเองๆกะให้ความรู้น๊าจ๊ะ!!)
เด๋วว ๆ จหกท. แปลว่าไร ๆ ?
Aef Accawa :)- Moderator
- จำนวนข้อความ : 421
EP Point : 428
ระดับชื่อเสียง : 0
สมัครเมื่อวันที่ : 2009-09-17
Age : 28
ที่อยู่ : เหนือดิน 7 เซนติเมตร
EP-Pets :
re: Aef
เด๋วว ๆ จหกท. แปลว่าไร ๆ ?
จขกท...แปลว่า เจ้าของกระทู้
ใช้กันทั่วๆไปอ่ะ...
:lol!: :lol!: :lol!:
oOBLGM&Mrs_CowiizzOo- Moderator
- จำนวนข้อความ : 356
EP Point : 658
ระดับชื่อเสียง : 4
สมัครเมื่อวันที่ : 2009-09-19
Age : 28
ที่อยู่ : My nice house &amp;amp; Nitipisan house
EP-Pets :
EP Benjama Club [Season²] | The EP Students Community :: [EP]-FORUMS :: :: Chat Room :: Learn :: Science
Page 1 of 1
Permissions in this forum:
You cannot reply to topics in this forum
|
|
Sun Sep 11, 2011 4:43 pm by Nicky
» YU_GI_OH power of choas [Kaiba The Revenge]
Sat May 28, 2011 6:05 pm by siralex
» [307'53]สามศูนย์เจ็ด ;`ทู้ห้องใหม่ ไฉไลกว่าเดิม :-)
Sat Feb 26, 2011 11:20 pm by T'THAN
» โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษากำหนดรับนักเรียนเข้าศึกษาต่อชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ประจำปีการศึกษา 2554
Sat Feb 26, 2011 2:11 pm by admin
» THE E.P. Spirit CUP 2011 : UPDATE 24/01/11
Thu Jan 27, 2011 9:18 pm by Chompoo
» กิจกรรมเพื่อสังคมของนักเรียน ม. 2
Sun Jan 16, 2011 8:37 pm by Chompoo
» ซาหวาดีค่าาาา... เช่อ ฝ น น น๊า ยุ 107
Sat Dec 25, 2010 4:58 pm by "Plutonima"
» มาคิดๆดูแล้ว
Thu Dec 16, 2010 9:25 pm by HEWHEW
» Hello !! I am Present New Web Hot
Thu Dec 16, 2010 9:15 pm by HEWHEW